รายงานล่าสุด ณ สิ้นปี 2025 ยืนยันว่า TSMC ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตชิปจากไต้หวัน กำลังรุกหนักในสหรัฐฯ โดยการเร่งแผนการผลิตชิปขั้นสูงที่โรงงานในรัฐแอริโซนา (Arizona) ให้เร็วขึ้นกว่ากำหนดการเดิมถึง 1 ปี เพื่อตอบสนองความต้องการชิป AI ที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีฝั่งอเมริกาครับ
📍 สรุปแผนผังและไทม์ไลน์ใหม่ของ TSMC Arizona (6 โรงงาน)
TSMC ได้ขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นจนปัจจุบันมีมูลค่ารวมสูงถึง 1.65 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5.6 ล้านล้านบาท) เพื่อสร้าง “Gigafab” ที่ประกอบด้วยโรงงานทั้งหมด 6 แห่งครับ:
| โรงงาน (Fab) | เทคโนโลยีการผลิต (Node) | สถานะ / ไทม์ไลน์การผลิต (Mass Production) |
| Plant 1 | 4nm (N4) | 🐝 เริ่มเดินเครื่องผลิตเต็มรูปแบบแล้ว (Q1 2025) |
| Plant 2 | 3nm (N3) | 🐝 เร่งขึ้น 1 ปี! คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2027 (เดิมปี 2028) |
| Plant 3 | 2nm (N2) & 1.6nm (A16) | 🐝 เร่งขึ้น 1 ปี! คาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในปี 2028 (เดิมปี 2029) |
| Plant 4 | 2nm & 1.6nm | 🐝 เตรียมใช้รองรับเทคโนโลยี N2 และ A16 เพิ่มเติม |
| Plant 5 & 6 | ต่ำกว่า 1.4nm (A14) | 🐝 สำหรับชิปยุคถัดไป (Angstrom era) ในอนาคต |
🌟 ไฮไลท์สำคัญ: ทำไมต้องเร่งเครื่อง?
- AI Demand: ลูกค้าหลักอย่าง Apple, NVIDIA, และ AMD ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปที่ล้ำที่สุดบนแผ่นดินอเมริกาเพื่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน
- พิธีวางศิลาฤกษ์ (Groundbreaking): TSMC ได้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งที่ 3 ไปแล้วเมื่อช่วง เมษายน-พฤษภาคม 2025 ที่ผ่านมา ท่ามกลางการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ
- เทคโนโลยี A16 (1.6nm): นี่คือเทคโนโลยีชิประดับ “อังสตรอม” (Angstrom) ครั้งแรกที่จะมีการนำเทคโนโลยี Super Power Rail (backside power delivery) มาใช้ ซึ่งจะช่วยให้ชิป AI แรงขึ้นและกินไฟน้อยลงมหาศาล
⚠️ ความท้าทายที่ยังต้องจับตา
แม้จะเร่งแผนงานได้เร็วขึ้น แต่ TSMC ยังต้องเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงดังนี้ครับ:
🐝 การขาดแคลนแรงงาน: ความต้องการวิศวกรและช่างเทคนิคเฉพาะทางในอเมริกายังสูงกว่าจำนวนแรงงานที่มีอยู่จริง
🐝 ต้นทุน CapEx: งบลงทุนที่พุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลให้ “ราคาต่อแผ่นเวเฟอร์” (Wafer Price) ที่ผลิตในอเมริกาแพงกว่าในไต้หวันประมาณ 10-15%
🐝 ภูมิรัฐศาสตร์: นโยบายกำแพงภาษีและกฎระเบียบการส่งออกเทคโนโลยีขั้นสูงระหว่างสหรัฐฯ-จีน-ไต้หวัน ยังคงเป็นตัวแปรสำคัญ

