🤝 สะเทือนวงการ! OpenAI จับมือ Broadcom สร้างชิป AI ของตัวเอง ตั้งเป้ากำลังประมวลผลมหาศาล 10 กิกะวัตต์!

ข่าวใหญ่ล่าสุด, OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT ที่ปฏิวัติโลก ได้ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์กับ Broadcom ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเซมิคอนดักเตอร์และระบบเครือข่าย เพื่อสร้างและติดตั้งชิปประมวลผล AI (AI Accelerator) ที่ออกแบบโดย OpenAI เอง!

ดีลยักษ์ใหญ่นี้มีเป้าหมายที่จะติดตั้งระบบประมวลผล AI กำลังไฟรวมกันสูงถึง 10 กิกะวัตต์ (Gigawatts) ซึ่งเป็นสเกลที่ใหญ่มาก เพื่อรองรับความต้องการใช้งาน AI ที่เพิ่มขึ้นมหาศาลทั่วโลก

🤖 ทำไม OpenAI ถึงต้องออกแบบชิปเอง?

นี่คือหัวใจสำคัญของดีลนี้ครับ การที่ OpenAI ลงมาออกแบบชิปเองนั้นมีเหตุผลหลักคือ:

• ฝังความรู้ลงในฮาร์ดแวร์: OpenAI สามารถนำสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการสร้างโมเดล AI ขั้นสูงอย่าง GPT มาออกแบบสถาปัตยกรรมของชิปได้โดยตรง
• ปลดล็อกขีดความสามารถใหม่: พูดให้เห็นภาพง่ายๆ มันเหมือนกับการสร้างเครื่องยนต์ที่ออกแบบมาเพื่อรถแข่ง F1 ของตัวเองโดยเฉพาะ แทนที่จะซื้อเครื่องยนต์สำเร็จรูปมาใช้ ซึ่งจะทำให้ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพสูงสุด และอาจนำไปสู่ความสามารถของ AI ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน

แซม อัลต์แมน (Sam Altman) ซีอีโอของ OpenAI กล่าวว่า “การพัฒนาชิปเร่งความเร็วของเราเอง จะช่วยเสริมสร้างระบบนิเวศของพาร์ทเนอร์ที่กำลังสร้างขีดความสามารถที่จำเป็นในการผลักดันขอบเขตของ AI เพื่อมอบประโยชน์แก่มนุษยชาติทั้งมวล”

⚡️ เป้าหมาย 10 กิกะวัตต์ มันใหญ่แค่ไหน?

ตัวเลข 10 กิกะวัตต์ คือปริมาณการใช้พลังงานที่มหาศาลมาก เทียบเท่ากับพลังงานที่เมืองขนาดใหญ่เมืองหนึ่งใช้ หรือเทียบเท่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายแห่งเลยทีเดียว!

นั่นหมายความว่านี่คือการสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านการประมวลผล AI ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพื่อใช้ในการฝึกและรันโมเดล AI แห่งอนาคต โดยมีกำหนดการจะเริ่มติดตั้งในช่วงครึ่งหลังของปี 2026 และจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2029

🌐 บทบาทของ Broadcom คืออะไร?

ในความร่วมมือนี้ Broadcom จะไม่ได้เป็นแค่ผู้ผลิต แต่จะ:

1. ร่วมพัฒนา (Co-develop): ช่วย OpenAI พัฒนาชิปที่ออกแบบไว้ให้กลายเป็นจริงขึ้นมา
2. วางระบบเครือข่าย (Networking): จัดหาโซลูชันระบบเครือข่ายความเร็วสูงอย่าง Ethernet และการเชื่อมต่ออื่นๆ เพื่อให้ชิป AI หลายแสนตัวสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ซึ่งนี่คือความเชี่ยวชาญหลักของ Broadcom

ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่งในการเดินทางไปสู่ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (AGI) และเป็นการส่งสัญญาณว่าสงคราม AI ในยุคต่อไป จะไม่ได้แข่งขันกันแค่ที่ซอฟต์แวร์ แต่ยังรวมถึงฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะอีกด้วย!