แอปหาคู่ชื่อดังอย่าง Tinder กำลังทดสอบฟีเจอร์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในชื่อ “Chemistry” (เคมี) ซึ่งมีแนวคิดที่ล้ำมาก (และอาจจะน่ากังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวไม่น้อย) ครับ
โดยฟีเจอร์นี้ จะเรียนรู้เกี่ยวกับความสนใจและบุคลิกภาพของคุณ ผ่านการ “วิเคราะห์ภาพถ่ายในคลังภาพ (Camera Roll)” ในมือถือของคุณครับ!
เป้าหมาย: แก้ปัญหา “ปัดจนเหนื่อย”
Match Group (บริษัทแม่ของ Tinder) ได้อธิบายในรายงานผลประกอบการล่าสุดว่า “Chemistry” ถูกออกแบบมาเพื่อต่อสู้กับ “อาการปัดจนเหนื่อย” (Swipe Fatigue) ที่ผู้ใช้กำลังเผชิญอยู่
โดย AI นี้จะช่วยคัดกรองและนำเสนอคู่แมตช์ที่ “เข้ากันได้” (Compatible) มากขึ้น แต่แสดงผลในจำนวนที่ “น้อยลง” (เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณนั่นเองครับ)
มันทำงานอย่างไร? (และข้อกังวล)
- ต้องขออนุญาต (Opt-in): ฟีเจอร์นี้จะทำงานได้ ก็ต่อเมื่อผู้ใช้ “กดยินยอม” ให้ AI เข้าถึงคลังภาพในเครื่องได้เท่านั้น
- ถามคำถามโต้ตอบ: นอกจากสแกนรูปแล้ว AI จะมีการ “ถามคำถามเชิงโต้ตอบ” (Interactive Questions) เพื่อทำความรู้จักตัวตนของคุณให้ดียิ่งขึ้นด้วย
แม้ว่าเราจะต้องเป็นคนกดยินยอมเอง แต่หลายคนก็มองว่า การอนุญาตให้ AI ของแอปหาคู่เข้ามา “รื้อค้น” (Free rein) รูปภาพทั้งหมดในอุปกรณ์ของเรา มันให้ความรู้สึก “ล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว” (Invasive) อยู่ไม่น้อยครับ
ไทม์ไลน์ และเหตุผลที่ต้องทำ
- อนาคตของ Tinder: Match Group ระบุว่า ฟีเจอร์นี้คือ “เสาหลักสำคัญของประสบการณ์ Tinder ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2026”
- เริ่มทดสอบแล้ว: “Chemistry” ได้เริ่มเปิดให้ทดลองใช้แล้วใน นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย และมีแผนจะขยายไปยังประเทศอื่นๆ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
- ดึงดูดผู้ใช้กลับมา: การพยายามผลักดันฟีเจอร์ AI เหล่านี้ เป็นความพยายามครั้งใหญ่ของ Match Group ที่จะดึงดูดผู้ใช้ให้กลับมาติดแอปอีกครั้ง หลังจากที่ Tinder มียอดผู้ใช้งานแบบเสียเงิน (Paying Subscribers) ลดลงอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 2 ปีแล้ว ครับ

