HomeNews🔥 สรุปวิกฤต: เมื่อ Big Tech ยอมก้มหัวให้ Samsung และ SK hynix

🔥 สรุปวิกฤต: เมื่อ Big Tech ยอมก้มหัวให้ Samsung และ SK hynix

Published on

สถานการณ์ในเกาหลีใต้ตอนนี้เปรียบเสมือนศูนย์กลางพายุของโลก AI ครับ โดยมีประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นดังนี้:

1. 🚶‍♂️ การวอล์กเอาต์ของ Microsoft (MS) ในห้องประชุม

  • เหตุการณ์: ผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อของ MS เดินทางมาเจรจา Long-term Agreement (LTA) กับ SK hynix เพื่อล็อกคิว HBM สำหรับปีหน้า
  • จุดแตกหัก: เมื่อ SK hynix ยืนยันว่า “ไม่สามารถจัดส่งตามเงื่อนไข (ราคา/ปริมาณ) ที่ MS ต้องการได้” ทำให้ผู้บริหาร MS ถึงกับเก็บอารมณ์ไม่อยู่และเดินออกจากห้องประชุมทันที
  • สะท้อนอะไร: ในอดีตลูกค้ารายใหญ่อย่าง MS คือ “พระเจ้า” ที่กำหนดเงื่อนไขได้ แต่ตอนนี้ SK hynix คือผู้กุมชะตา เพราะมีลูกค้าคนอื่น (เช่น NVIDIA) พร้อมจ่ายหนักกว่าเสมอ

2. ❌ Google สั่งไล่ออก (Fired) ผู้บริหารชุดจัดซื้อ

  • ต้นเหตุ: Google กำลังเร่งผลิตชิป AI ของตัวเอง (TPU) และต้องการ HBM เพิ่มเติม แต่แผนการจัดซื้อที่วางไว้ล่วงหน้าไม่เพียงพอต่อความต้องการที่ล้นทะลัก
  • ความล้มเหลว: เมื่อพยายามขอซื้อเพิ่มจาก SK hynix และ Micron คำตอบเดียวที่ได้รับคือ “Impossible” (เป็นไปไม่ได้) เพราะคิวเต็มไปถึงปี 2027
  • ผลลัพธ์: ผู้บริหารระดับสูงของ Google ถือว่านี่คือความผิดพลาดร้ายแรง (Supply-chain Risk) จนสั่งปลดทีมจัดซื้อชุดนี้ทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ

3. 🇰🇷 “Stationed in Korea”: การตั้งป้อมสนามรบที่กรุงโซล

  • ย้ายฐานที่มั่น: ปัจจุบันผู้บริหารระดับสูงและผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจาก Microsoft, Google, และ Meta แทบจะใช้ชีวิตและกินนอนอยู่ที่เกาหลีใต้ (โดยเฉพาะแถวเขตคังนัมและคยองกี) เพื่อเฝ้าหน้าโรงงาน Samsung และ SK hynix
  • ภารกิจ: ไม่ใช่แค่การสั่งซื้อ แต่เป็นการ “อ้อนวอน” (Pleading) และคอยประสานงานทางเทคนิคเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่หลุดโผจากคิวจัดส่ง
  • เปลี่ยนการจ้างงาน: Big Tech เริ่มเปลี่ยนมาประกาศรับสมัคร Memory Commodity Manager ที่ต้องมีพื้นฐานวิศวกรรมและพร้อมทำงานใน เกาหลี, ไต้หวัน หรือสิงคโปร์ แทนที่จะนั่งอยู่ในซิลิคอนวัลเลย์เหมือนเมื่อก่อน

📊 ทำไม Memory ถึงกลายเป็นทองคำ?

เหตุผลที่ Samsung และ SK hynix มีอำนาจเหนือตลาดขนาดนี้คือ: 🍎 HBM (High Bandwidth Memory): เป็นส่วนประกอบที่ “ขาดไม่ได้” ใน GPU/TPU รุ่นท็อป หากไม่มี HBM ชิป AI ก็ไม่ต่างจากซูเปอร์คาร์ที่ไม่มีน้ำมัน 🍎 การผูกขาดเทคโนโลยี: โลกนี้มีเพียง 3 บริษัทที่ผลิตได้ (Samsung, SK, Micron) และปัจจุบันทั้ง 3 บริษัท ขายของหมดล่วงหน้าไปถึงปี 2027 แล้ว 🍎 สงครามราคา: เมื่อของขาดแคลน Big Tech จึงยื่นข้อเสนอแบบ “Open-ended orders” คือ “ราคาเท่าไหร่ก็ได้ ขอแค่ให้มีของส่งมา”


🔮 มุมมองส่งท้าย

สถานการณ์นี้ยืนยันว่า เกาหลีใต้ ได้กลายเป็น “Hub ของ AI Superpower” อย่างแท้จริง ข่าวที่ผู้บริหารระดับโลกอาจต้องตกงานหากจัดซื้อชิปไม่ได้ แสดงให้เห็นว่าในสงคราม AI ครั้งนี้ “ฮาร์ดแวร์” คือคอขวดที่แท้จริง ใครที่คุมการผลิตได้ คนนั้นคือผู้ชนะตัวจริงครับ

Latest articles

More like this

🚀 Huawei Ascend 950: ทางเลือกที่สองในยุคผูกขาด AI

ในงาน "Huawei Day 2025" ณ โรงแรม The Plaza กรุงโซล นาย Balian Wang ซีอีโอของ Huawei...

🛡️ สรุปดีลประวัติศาสตร์: Nvidia x Groq

ข้อตกลงนี้ถูกมองว่าเป็น "Acqui-hire" (การซื้อบริษัทเพื่อจ้างพนักงาน) ครั้งใหญ่ที่สุดในโลกไอที โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้ครับ: 💰 มูลค่ามหาศาล: จ่ายเป็นเงินสดสูงถึง 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาประเมินเดิมของ Groq (6.9 พันล้านดอลลาร์) ถึงเกือบ...

📈 สรุปข่าวลือ: ASUS จะผลิต DRAM เองในปี 2026?

มีรายงานข่าวลือ (เริ่มจากสื่อ Sakhtafzarmag) ว่า ASUS ยักษ์ใหญ่ด้านคอมพิวเตอร์จากไต้หวัน มีแผนที่จะเปิดไลน์การผลิต DRAM ของตัวเองภายใน ไตรมาสที่ 2 ของปี 2026 หากสถานการณ์ราคาและซัพพลายในตลาดยังไม่ดีขึ้น 🔍...