HomeNewsความท้าทายของ Microsoft AI: Copilot ไม่ได้รับความนิยมจริงหรือ?

ความท้าทายของ Microsoft AI: Copilot ไม่ได้รับความนิยมจริงหรือ?

Published on

รายงานที่ออกมาล่าสุดตอกย้ำถึงปัญหาเชิงกลยุทธ์ของ Microsoft ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ AI “Agentic” หรือ AI ผู้ช่วยที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานที่ซับซ้อนให้เสร็จสิ้นแทนมนุษย์ ซึ่งปัญหาหลักคือ ลูกค้าไม่ยอมซื้อ

1. การลดเป้าหมายยอดขาย (Sales Goals Cut)

  • ตัวเลขที่สะเทือนใจ: มีรายงานว่า Microsoft ต้อง ลดเป้าหมายการขาย สำหรับซอฟต์แวร์ AI ผู้ช่วยลงถึง 50% ในบางกรณี ซึ่งบ่งชี้ว่าบริษัทประเมินความต้องการในตลาดสูงเกินไป1
  • การปฏิเสธของ Microsoft: แม้ Microsoft จะออกมาปฏิเสธโดยระบุว่า “ข่าวของ The Information ผิดพลาดในการทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเติบโตและเป้าหมายการขาย” แต่การออกมาตอบโต้อย่างแข็งกร้าวก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยในหมู่สาธารณชน

2. ปัญหา “ไม่เวิร์ค” และ “ไม่คุ้มค่า”

  • ประสิทธิภาพที่ต่ำ: การทดสอบในช่วงต้นปีพบว่า AI Agent เหล่านี้ ล้มเหลวในการทำงานสูงถึง 70% ของเวลาทั้งหมด ซึ่งทำให้แทบจะใช้งานไม่ได้จริงในฐานะเครื่องมือทดแทนแรงงาน
  • ราคาสูง: หนึ่งในข้อจำกัดที่ใหญ่ที่สุดของ Copilot for Microsoft 365 คือ ราคาสูง ($30 ต่อคนต่อเดือน) (ไม่นับรวมค่าลิขสิทธิ์ M365) ซึ่งทำให้ลูกค้าองค์กรจำนวนมากมองว่าฟีเจอร์ที่ยัง “ไม่เสถียร” และ “ไม่สามารถทำงานร่วมกับแอปอื่น ๆ ได้ดี” นี้ ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน2

3. ส่วนแบ่งการตลาดที่กำลังถูกแซง

แม้ Microsoft จะมีจุดเริ่มต้นที่ดีจากการลงทุนใน OpenAI และการเปิดตัว Bing Chat/Copilot ก่อนใคร แต่โมเมนตัมกำลังชะลอตัวลง:

AI Chatbotส่วนแบ่งการตลาด (โดยประมาณ)หมายเหตุ
ChatGPT (OpenAI)>61%ยังคงเป็นผู้นำตลาดอย่างท่วมท้น
Microsoft Copilot14% (อ้างอิงจาก Windows Central)กำลังถูกไล่ตามอย่างรวดเร็ว
Google Gemini13% (อ้างอิงจาก Windows Central)เติบโตอย่างรวดเร็ว (12% ในไตรมาสล่าสุด)

การเติบโตของ Google Gemini ที่รวดเร็วมาก แสดงให้เห็นว่าการผสานรวม AI เข้ากับระบบนิเวศที่มีอยู่แล้ว เช่น Google Workspace, Android และ Google Search ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้มากกว่า Copilot ที่ดูเหมือนจะเป็นฟีเจอร์ที่ “แปะเข้ามา” ใน Windows และ Office

💡 บทสรุป: ความท้าทายในการนำ AI เข้าสู่ตลาดหลัก

ปัญหานี้ตอกย้ำถึงความจริงที่ว่า “การมีเทคโนโลยีที่ดี” (จากการเข้าถึง GPT-4/5 ของ OpenAI) อาจไม่เพียงพอในการชนะตลาด AI

  • ความง่ายในการใช้งานและราคา: ความรู้สึกของผู้ใช้ที่ว่า Gemini ใช้งานง่ายและชาญฉลาดกว่าอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้ใช้เลือกไปใช้เครื่องมือที่ “ใช้งานได้จริง” มากกว่า
  • ความคาดหวังที่สูงเกินไป: Microsoft เร่งรีบที่จะผลักดัน AI Agent ออกสู่ตลาดก่อนที่เทคโนโลยีจะพร้อมอย่างสมบูรณ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีภาพลักษณ์ของ “คุณภาพที่ต่ำ” ซึ่งอาจสร้างความเสียหายในระยะยาว

เป็นที่น่าจับตาดูว่า Microsoft จะมีกลยุทธ์อย่างไรในการดึงความเชื่อมั่นของลูกค้ากลับมา และจะสามารถเปลี่ยน Copilot ให้กลายเป็น “วิธีใหม่ในการใช้งาน Windows” ได้จริงหรือไม่ ในเมื่อผู้ใช้ทั่วไปยังไม่มีใครใช้มันอย่างจริงจัง

Latest articles

More like this

สงคราม AI Wearable! 👓 Google ประกาศเปิดตัว “แว่นตาอัจฉริยะ AI” 2 รุ่น ในปี 2026

Google ได้ประกาศอย่างเป็นทางการถึงแผนการเปิดตัว แว่นตาอัจฉริยะ (Smart Glasses) ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) ถึง 2 รุ่น โดยมีกำหนดการจะเข้าสู่ตลาดในปี 2026 ซึ่งเป็นการประกาศท้าชนคู่แข่งอย่าง Meta...

ยกระดับเสียง! 🎶 Suno Studio เพิ่ม “EQ” (Equalizer) ให้ผู้ใช้ควบคุมคุณภาพเสียงได้ดียิ่งขึ้น

มีข่าวอัปเดตที่น่าตื่นเต้นสำหรับชุมชนนักสร้างสรรค์เพลงด้วย AI ครับ เมื่อ Suno แพลตฟอร์มสร้างเพลง AI ชื่อดัง ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำคัญในส่วนของ "Studio" นั่นคือ Equalizer (EQ) การเพิ่ม EQ...

หมดปัญหาวุ่นวาย! 🚀 Google เปิดตัว Mixboard Presentations ใช้ Nano Banana Pro เปลี่ยน “ไอเดียโกลาหล” เป็นสไลด์สุดปัง

มีข่าวใหญ่จาก Google Labs ครับ! พวกเขาได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ล่าสุด "Mixboard Presentations" อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งจะเข้ามาปฏิวัติวิธีการสร้างงานนำเสนอ (Presentation) ของเราไปอย่างสิ้นเชิง Mixboard Presentations ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาคลาสสิกของนักสร้างสรรค์ นั่นคือการเปลี่ยน...